วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2551

What dose it take to be SUCCESSFUL NetMarketer?



Are you tired of being counted among the 90 percent of people trying to earn a living online who SPEND THREE TIMESMORE MONEY THAN THEY MAKE? That's a sad fact, but true. Themajority of "opportunities"

out there are nothing more thanscams. You're sold on a name, sometimes without evenknowing what the product is! Just because so-and-so says itwill work, thousands pay their fees, and jump on thebandwagon hoping so-and-so's magic will rub off.My friend, I'm here to tell you that online marketingdoesn't work that way.

If you want to build a successfulonline business, one that lets you earn an above-averageincome (or more, depending upon your persistence anddetermination) you need to do three things:First, follow a proven training and success system.

One that's been around, and that doesn't promise instant richesbut instead shows you that steady, persistent growth is whatproduces the long-term success you are seeking. Second, connect with Internet leaders and mentors who are willingand want to help others transform their lives using the power of the Internet. And third, build multiple streams of income with lucrative monthly and weekly payouts.Is there such a system? Yes. It's called Empowerism. Visitthe link below and join the ranks of dozens of the Net's toponline marketers, and start EARNING more than you spendrather than the other way around!

ClickHere

วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2551

คำทำนายกำลังจะเป็นจริงในปี 2008

แนวโน้มการคาดการณ์ด้านอินเตอร์เน็ตในอนาคต
(บทความนี้เขียนขึ้นเมื่อปี 2002)

ปี 2004 ร้อยละ 30 ของบ้านทั่วโลกจะมีเคเบิล สายต่ออินเตอร์เน็ตที่ควบคุมไปทั่ว

ปี 2006 ร้อยละ 30 ของธุรกรรมในภาคเอกชนจะทำผ่านทางอินเตอร์เน็ต

ปี 2007 ร้อยละ 30 ของภาพยนตร์ เกมส์ ตลอดจนความบันเทิงรูปแบบต่างๆ จะขายทางอินเตอร์เน็ต ร้อยละ 30 ของการเงินการธนาคารจะทำทางอินเตอร์เน็ต และในปีเดียวกันนี้การขายสินค้าทางอินเตอร์เน็ตจะมีการเก็บภาษีการขายในประเทศใหญ่ๆ ทั้งหมด

ปี 2008 โปรแกรมความรู้หรือโปรแกรมด้านการศึกษาจะถูกส่งผ่านไปยังเป้าหมายที่เป็นนิสิตนักศึกษาหรือผู้ใช้ต่างๆ ได้ตามต้องการร้อยละ 30

ปี 2009 จะมีระบบรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ที่ทำให้เกิดความมั่นใจของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วโลก และ ร้อยละ 30 ของประชากรทั่วโลกจะมีโทรศัพท์มือถือหรือเครื่อง PDA ที่สามารถต่อเข้าที่อินเตอร์เน็ตได้

ปี 2010 ร้อยละ 30 ของสิ่งพิมพ์หนังสือต่างๆ จะขายทางอินเตอร์เน็ต การจ่ายค่าทะเบียนรถ หรือค่าน้ำค่าไฟต่างๆ จะจ่ายทางอินเตอร์เน็ต รวมถึงสินค้าและบริการต่างๆ จะขายผ่านทางอินเตอร์เน็ต

ปี 2012 การทำศัลยกรรมในที่ชนบทในที่ทุรกันดาร จะสามารถทำได้ผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และการส่งข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตผ่านสัญญาณดาวเทียม และร้อยละ 30 ของการเลือกตั้งจะทำผ่านอินเตอร์เน็ต โดยผ่านตู้เลือกตั้งคล้าย ATM ที่คนสามารถไปลงคะแนนเสียงได้

ปี 2014 การเรียนทางไกลผ่านอินเตอร์เน็ตจะเป็นวิธีการสอนหลักถึงร้อยละ 30 ในรายวิชาในระดับมหาวิทยาลัย

ปี 2015 ร้อยละ 30 ของการสั่งจ่ายยาหรือการออกใบสั่งให้มีการทดสอบทางการแพทย์จะมีทางอินเตอร์เน็ต

ปี 2016 ร้อยละ 30 ของประชากรจะมีโอกาสได้สัมผัสกับเทคโนโลยีเสมือนจริงในรูปของความบันเทิง ฯลฯ เช่น เกมส์ Visual sex

นอกจากนี้ยังคาดว่า ปี 2016 ร้อยละ 90 ของคนทั่วโลกไม่ว่าจะอยู่ในถิ่นทุรกันดารแค่ไหนจะมีอินเตอร์เน็ตใช้ ส่วนเรื่องที่กำลังมีการเคลื่อนไหวในองค์กรต่างๆ และมีการนำไปใช้ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเกิดผลกระทบแน่แน่นอนในอนาคต คือ

1) เรื่อง Speed recognition คือการเข้าใจเสียงมนุษย์ของคอมพิวเตอร์

2) เรื่อง Smart computer ที่มีความสามารถสูงขึ้นกว่าปัจจุบันอย่างมาก เช่น Hyper Smart computer ที่สามารถตรวจสอบความบกพร่องของตัวเองได้ หรือมีความเร็วสูงมากๆ ซึ่งเกิดขึ้นแล้ว รวมไปถึงพวกทีวีจอแบน และหุ่นยนต์ทั้งหลายซึ่งจะเป็นประชากรกลุ่มใหม่ในโลกซึ่งภายใน 4-5 ปีจะมีการใช้แพร่หลายกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้แนวโน้มของสังคมโลกนอกจากจะถูกอิทธิพลของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์อินเตอร์เน็ตควบคุมมากขึ้นแล้ว สังคมในทศวรรษยังมีความเป็นพลวัตร มีความสลับซับซ้อน และความไม่แน่นอนสูง และคาดว่าจะเกิดเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลในสังคมโลกอันเนื่องมาจากกระแสโลกาภิวัตน์

นี่คือ เวลาของการสร้างอาชีพและรายได้ผ่านอินเตอร์เน็ตอย่างแท้จริง ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อีกต่อไป ถึงเวลาปฏิวัติการสร้างงานบนอินเตอร์เน็ตอย่างจริงจังที่สุด ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา จากความสำเร็จที่มีมากกว่า 20 ปีของต่างประเทศ

วันนี้ คนไทยเรากำลังจะก้าวไปอีกขั้นของการสร้างรายได้ให้เป็นกอบเป็นกำผ่านอินเตอร์เน็ต 100% เพราะอัตราการเติบโตของอินเตอร์เน็ต
ในประเทศไทยกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

โอกาสที่ไม่ควรมองข้าม




วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ไขความหมายของงานที่ดีที่สุดในโลก

เพื่อให้มองเห็นภาพที่ชัดเจน และเข้าใจความหมาย และเห็นทางสว่างของการทำเงิน ทางอินเตอร์เน็ตอย่างแท้จริงว่า มันดีกว่างานทุกงานในโลกอย่างไร เรามารู้กันก่อนว่า งานดีที่สุด ควรประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

1. การพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง...เราต้องสามารถพัฒนางานของเราได้ เลือกวิธีทำงานได้ด้วยตัวเอง เลือกเวลาทำงานได้ด้วยตัวเอง
2. หนทางทำเงินได้ไม่สิ้นสุด ไม่มีทางตัน...จะต้องเป็นงานที่ทำเงินได้กว้างไกล ได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
3. จะต้องเป็นงานที่ทำแล้วสบายใจ ...ไม่ทำให้เสียเพื่อน หรือสังคม และทำแล้วเท่ห์ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร

งานธุรกิจเครือข่ายเป็นแนวคิดที่ดี ในการสร้างกำไรแบ่งปัน ในเครือข่าย...ทำให้อาชีพได้เงินเดือนสูงๆ ลาออกมาทำกัน เพราะใครๆ ก็เบื่องานประจำค่ะ !!! ความจริงข้อนี้ยังคงอยู่ และฮิตตลอดกาล ส่วนใหญ่ที่ทนทำงานประจำ เพราะไม่รู้จะทำไร !!! เงินเดือนสูงๆ อยากหาอะไรที่ดีกว่านั้น แต่งานเครือข่ายไม่ผ่านเรื่องของสังคม เพราะลึกๆ แล้ว คือ การตื้อคนนั่นเอง ..เชื่อว่านักธุรกิจเครือข่ายที่ทุ่มเทมากมาย

ความยากของงานเครือข่าย (MLM) คือ
1. ต้องมีรักษายอด ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เพราะระบบอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีการซื้อขายเกิดขึ้น หรือไม่มีเงินเข้าระบบนั่นเอง ถ้าธุรกิจไหนไม่มีรักษายอด ลงทุนครั้งเดียว การรับรายได้ก็ไม่ต่อเนื่องยั่งยืน
2. ธุรกิจเครือข่าย มักประกอบด้วยสินค้า เพื่อจำหน่ายเรียกเงินเข้ามาในระบบ และตัวสินค้านี่เอง มักมีราคาสูงกว่าท้องตลาด ขยายก็คือ ใครๆ ก็อยากใช้ของดี สินค้าของธุรกิจเครือข่ายทุกค่าย เชื่อว่า เป็นสินค้าที่ดีมากๆ เป็นจุดขายของธุรกิจ จึงทำให้เกิดการสร้างธุรกิจเครือข่ายขึ้นมา...แต่ถ้าคนไม่มีกำลังจะซื้อบ่อยๆ การสร้างธุรกิจก็ไม่ต่อเนื่องเท่าไหร่
3. คนมักจะกลัวที่จะคุยกับนักธุรกิจเครือข่าย หรือบางทีคนรู้จักกันซื้อสินค้าด้วยความเกรงใจ แต่มักลงเอยด้วยความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ ห่างออกในที่สุด
4. ธุรกิจเครือข่ายที่มีสินค้าประเภทอาหารเสริม เครื่องสำอางหรืออะไรก็ตามที่เป็นตัวสินค้าที่มีคู่แข่งขันจำนวนมาก มักจะประสบความสำเร็จได้ยาก เพราะการแข่งขันทางด้านผลตอบแทนจากแผนการตลาดที่สูงกว่า สินค้าที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน และการซื้อตัวหัวหน้าทีมในบางค่าย ดังนั้นในปัจจุบันคนจึงมักจะไม่ค่อยอยู่ในบริษัทใด บริษัทหนึ่งนานๆ มักจะชอบไปย้ายไปอยู่ในบริษัทเปิดใหม่ เป็นต้นๆ สายเสียมากกว่า
5. ค่าใช้จ่ายในการทำงานเครือข่ายสูงมาก กว่าจะคืนทุนใช้เวลานานมากเช่นกัน พอเริ่มคืนทุนก็ต้องไปช่วยทีมงานในต่างจังหวัดอีก ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นอีก หักค่าใช้จ่ายแล้วบางเดือนก็เหลือไม่เท่าไหร่ ทำให้คนเลิกทำถึงแม้ตำแหน่งสูงขึ้นก็ตาม

กำจัดจุดอ่อนด้วย งานแห่งยุคใหม่ !!! งานอินเตอร์เน็ตไม่ใช่ธุรกิจเครือข่าย แต่มีส่วนดีที่ธุรกิจเครือข่ายมี แต่ไม่มีส่วนเสียที่ธุรกิจเครือข่ายมี

งานทางเน็ตเรียกว่า Affiliate Program ซึ่งเป็นการสร้างพลังของเครือข่าย ที่ไม่ต้องเสียเงินเข้าร่วม ถึงเสียก็เสียไม่มาก ไม่ต้องตื้อ และไม่ต้องรักษายอดสูง

เป็นที่น่าเสียใจที่เว็บไทยบางเว็บทำธุรกิจเครือข่าย และใช้คำว่า Affiliate Program ซึ่งมันไม่เหมือนกัน จะทำให้เกิดความเข้าใจผิด สำหรับงานทางเน็ต Affiliate Program เป็นเพียงงานจำพวกหนึ่งของงานทางเน็ตเท่านั้น ยังมีโจทย์ทำเงินมากมายทางเน็ต

เอาง่ายๆ อธิบายให้เห็นภาพ "มีเว็บไซต์ เหมือนมีตึกแถว แต่เว็บไซต์เข้าถึงได้ง่ายจากทั่วโลก และทำอย่างไรที่เราจะเป็นเจ้าของธุรกิจได้ แต่กำจัดความยุ่งยากในการบริหารงาน”


4. จะต้องเป็นงานที่สร้างอิสระในการใช้ชีวิต มีเวลาสร้างสิ่งดี มีเวลาดูแล "หัวใจ" ของผู้ให้กำเนิด และทำดีต่างๆ นานา เพราะแท้จริง ชีวิตคือการเกิดมาใช้กรรม สร้างกรรม ไม่ใช่เกิดมาใช้เงิน สร้างทรัพย์สินหากเป็นงานที่มัวแต่หาเงิน จนไม่มีเวลาทำสิ่งดี ในขณะที่เวลายังเดินเรื่อยๆ ไม่มีหยุดเดิน นั่นคือความไม่แน่นอน ทางเลือกแห่งชีวิต ทุกคนกำหนดได้

การเกิดมาเพื่อทำโจทย์แห่งชีวิต และการสะสมความดี เพื่อรอรับ "คะแนน" จากบททดสอบแห่งชีวิต ต่อสิ่งล่อ หนทาง ขาว ดำ ต่างๆ ชีวิตก็เป็นสิ่งไม่แน่นอน เกิดก่อนตายก่อนมีถม เกิดหลังอยู่เกินร้อย ก็มีให้เห็น ความไม่แน่นอนนี้ คือ สิ่งที่จะพลาดไม่ได้ ในการทำให้งานที่ทำ ต้องควบคู่ไปกับองค์ประกอบแห่ง “การแทนคุณ” และมีอิสระในการสร้าง “ความดี”ไม่ใช่ครอบครัวแยกย้าย สักวันได้ดี ฉันจะแทนคุณ ในขณะที่ทำงานไปเรื่อยๆ ใช้เงินเดือนชนเดือน จนไม่รู้ว่าจะมีวันได้ดีวันไหน
คำว่า “ครอบครัว” คือ พ่อ แม่ ลูก ทุกคนมีพ่อแม่ พ่อแม่ไหนๆ ก็อยากให้ลูกได้ดีทั้งนั้น จะได้คุยได้โม้ได้ และจะได้ภูมิใจส่วนตัวที่ลูกได้ดี แต่ก็มีพ่อแม่มากมาย ที่แอบเหงาว่า เราก็เหมือนเรือจ้าง ส่งถึงฝั่งลูกทำมาหากินได้ก็มีความสุข นานๆ ทีจะมีของขวัญจากลูกมาให้ ก็ดีใจ ไม่ใช่เรื่องของทรัพย์สิน แต่เรื่องของความคิดถึง "ดีนะที่เค้ายังคิดถึงเราอยู่" ความอบอุ่นพร้อมหน้าพร้อมตา คงหาได้จากสงกรานต์ ปีใหม่ เทศกาลต่างๆ นั่นคงเป็น "วันแห่งความอบอุ่นของ 2 ตายาย"
คำว่า ความอบอุ่น การอยู่ดูแลกัน วันทั้งวันไม่มีอะไรจะพูดกัน ก็อบอุ่น เหมือนความรัก ชายหญิงรักกัน บางทีไม่มีเรื่องไรคุยกัน ก็อบอุ่น แค่รู้ว่าเค้าอยู่ใกล้ๆ เรา และคอยให้เราคุยด้วย เมื่อเหงา ก็อบอุ่น หากนานๆ เจอกันทีตามโอกาสแห่งเทศกาล แม้จะคิดถึงกันเหลือเกิน พอถึงจุดหนึ่ง ก็ไม่รู้จะคุยอะไรกัน กับความอบอุ่นชั่วคราวที่ได้รับ ในที่สุดก็ถึงเวลา “กลับไปทำงาน” ทำไงได้ ชีวิตเลือกไม่ได้ ไม่ได้เกิดบนกองเงินกองทอง เลือกไม่ได้จริงเหรอ ทุกอย่างตัวเราเอง สามารถตัดสินใจได้เองทั้งสิ้น

นั่นคือ ตัวอย่างของงานยุคเก่า งานยุคเก่าสอนให้คนเดินตามวิถี เรียนจบ หางาน งานล้น เรียนต่อ จบมาถ้าหางานได้..เบื่องาน งานประจำใครๆ ก็เบื่อ แม้ตอนเข้าจะแย่งกันเข้าเหลือเกิน จากหลักฐานใบสมัครงานร่วมพันใบแต่รับจริงแค่ 1 ตำแหน่ง

*** งานแห่งยุคใหม่ คือ งานที่อยู่บนพื้นฐานแห่งอินเตอร์เน็ต เครือข่ายโยงใยทั่วโลก ที่เพิ่งเข้ามามีบทบาท เมื่อ 10 - 20 ปีที่แล้ว ***

5. งานดีที่สุดในโลก ควรเป็นงานที่เราไม่ควรทำแบบธุรกิจส่วนตัว...แต่คำว่าธุรกิจส่วนตัว คือ การวางแผน และ การรับผิดชอบมากมาย คำว่า "เจ้าของบริษัท" อาจดูหรู แต่ถ้าบริหารไม่ดี ก็ขาดทุนบริหารดีก็ดีไป การบริหารจำเป็นต้องรับความเสี่ยงต่างๆ มากมาย และกรณีมีผู้ร่วมงานในกิจการที่คุณภูมิใจสร้าง คุณต้องพร้อมรับผิดชอบ รายได้ของผู้ร่วมงาน ผู้ร่วมงานอยากได้เงินเพิ่ม คุณไม่มีให้ ผู้ร่วมงานลาออก ไปหาที่ที่ให้มากกว่า ก็ต้องหาผู้ร่วมงานใหม่ สอนงานกันใหม่ นั่นคือ ความวุ่นวาย ปวดสมอง เสียสุขภาพ

แล้วเราจะเป็นอะไรในการทำเงิน? เราควรเป็นเพียงตัวกลาง ในการทำโจทย์ธุรกิจ ทำให้เรามีอิสรเสรีอย่างแท้จริง ..ในข้อนี้ เมื่อเข้าใจการทำงานทางเน็ต จะเข้าใจเองค่ะ

เมื่ออ่านเรื่อง ลักษณะของงานที่ดีที่สุดในโลก พอสมควรแล้ว คงพอจะเริ่มมีกำลังใจขึ้นแล้วว่า สิ่งที่กำลังจะศึกษานั่น ถ้าเป็นตามลักษณะของงานที่ดีที่สุดในโลกทุกข้อแล้ว คงเป็นงานที่ดีที่อยากทำจริงๆ เรามาเรียนรู้คร่าวๆ กันดีกว่าว่า "เงิน" ทางเน็ต มันเกิดขึ้นได้ยังไง


ทุกธุรกิจต้องมีที่มาของกำไร และการทำงานเพื่อให้เกิดกำไร หากขณะนี้คุณทำงานประจำอยู่ คุณก็รู้แน่นอนว่า บริษัทคุณทำอะไร มีรายได้อย่างไร

มาเรื่อง เงินทางเน็ต งานทางเน็ต บางอย่าง เน้นว่าบางอย่าง เพราะงานทางเน็ตมีเยอะมากๆ ก็เหมือนงานนอกจอนี่แหละครับเริ่มต้นจาก เมื่อมีคนทำเว็บไซต์ขึ้นมา คนที่ทำเว็บไซต์ขึ้นมา ต้องมีจุดประสงค์ที่ต้องการจะเสนออะไรซักอย่าง หรือโฆษณาอะไรซักอย่าง หรือแม้กระทั่งทำเล่นๆ เป็นข้อมูลไว้ แต่หากเหตุผลของการทำเว็บไซต์นั้น คือ ความอยากนำเสนอ ให้คนมากมายได้เห็นข้อมูล ได้เห็นธุรกิจ เพื่อประโยชน์ของผู้ทำธุรกิจเอง ก็เป็นสาเหตุให้ผู้ทำเว็บไซต์นั้น อยากโฆษณาให้มากที่สุด และคิดว่าจะโฆษณายังไง ให้คนเห็นมากที่สุด และคุ้มที่สุด

อย่างเช่น บริษัทคุณเป็นบริษัทท่องเที่ยว คุณอยากโฆษณาบริษัท จะได้มีลูกค้าเยอะๆ กำไรจะได้เยอะๆ คุณทำเว็บไซต์แนะนำบริษัท และรายการท่องเที่ยวขึ้นมาแล้ว แต่ไม่มีคนเข้าดู เพราะยังไม่มีการโฆษณา แล้วใครจะรู้ว่าคุณทำอะไร และอีกอย่างก็คงไม่ได้มีคุณเพียงคนเดียวที่ทำธุรกิจท่องเที่ยว คนอยากเที่ยวจะไปใช้บริการกับบริษัทที่เขาเห็นโฆษณาเท่านั้น ดังนั้นระบบนี้จึงให้คนหาเงินทางเน็ตด้วยการโปรโมทเวปให้ ถ้ามีคนมาซื้อบริการท่องเที่ยว คนโฆษณาให้ก็ได้คอมมิชชั่น ปิ๊งไหมคะ ว่าทำไมคนจึงหาเงินกับบริษัทพวกนี้ได้

มาดูตัวอย่างอีกระบบหนึ่ง มีคนคนนึง คิดสินค้าที่น่าจะขายดีได้ขึ้นมา แต่ไม่รู้จะไปขายที่ไหน ขายก็ไม่เป็น จะไปเร่ขาย ก็ไม่ชอบ

จึงตั้งโจทย์ทำเงินขึ้นมา ใครก็ได้ครับ ผมมีสินค้าชิ้นนี้ แต่ผมไม่รู้จะไปขายใคร แต่ถ้าคุณช่วย เอาไปขายให้ผม ขายได้ผมจะแบ่งกำไรให้ เมื่อแนวคิดนี้ นำเข้ามาใช้ทางเน็ต จึงเป็นช่องทางในการทำเงินได้มากมาย โดยระบบทางเน็ตที่ทำกันคือ คนช่วยขาย ไม่ต้องเอาของไปเร่ขาย ไม่ต้องทำหน้าที่จัดส่งสินค้า แค่สมัครช่วยโปรโมทสินค้า เว็บก็จะให้รหัสโฆษณาสินค้าขึ้นมา ซึ่งเป็นลักษณะลิ้งค์โฆษณา หรือป้ายโฆษณา ที่มี code รหัส ของแต่ละคนที่สมัครช่วยโปรโมทขายสินค้า

ถ้าคุณช่วยเว็บนั้นโปรโมทสินค้า คุณจะได้มาแค่รหัสป้ายโฆษณา ที่คุณสามารถเอาไปโปรโมทตามที่ต่างๆ ส่งเมล์ ลงโฆษณาหรืออะไรก็ได้ โดยที่คุณไม่ต้อง เอาสินค้ามาไว้กับคุณ ไม่ต้องคอยรับผิดชอบส่งสินค้าเลย เพราะถ้ามีคนคลิกป้ายโฆษณาที่ทางเว็บให้คุณ ในการช่วยโปรโมทสินค้า แล้ว มีคนสั่งซื้อสินค้าทางเว็บ ก็จะรู้ว่าสินค้านี้ ขายได้เพราะใคร จะมีระบบตรวจสอบ และทางเว็บจะเป็นผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการรับเงินที่ลูกค้าจ่ายค่าสินค้า และการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้า ส่วนคุณ ที่เป็นผู้ช่วยโปรโมท ทำหน้าที่เพียงโปรโมท และเช็คยอดว่า มีคนซื้อสินค้าหรือยัง มากน้อยแค่ไหน ได้ผลตอบแทนเท่าไหร่แล้ว และคอยรับส่วนแบ่งกำไรจากเว็บที่คุณช่วยโปรโมท ตามข้อตกลง เช่น ทำยอดรวมได้ถึง 2000 บาท ถึงจะสั่งจ่ายได้ เป็นต้น

นี่ก็เป็นอีกวิธี คุณไม่จำเป็นต้องคิดค้นสินค้า ไม่จำเป็นต้องคอยจัดส่งสินค้า แค่คุณช่วยเค้าโปรโมทตามที่ต่างๆ แล้วคุณก็คอยเช็คยอด แค่นั้น และยังมีเว็บอีกมากมายที่รอคุณช่วยโปรโมท และรอแบ่งจ่ายผลกำไร คุณสามารถสมัครและทำได้มากมายอย่างอิสระเสรี..ซึ่งระบบนี้เรียกว่า ระบบจ่ายค่าตอบแทน เมื่อมีผู้สนใจซื้อสินค้า

มาดูอีกตัวอย่างหนึ่งระบบสินค้าลิขสิทธิ์ จำพวกหนังสือความรู้ เทคนิคต่างๆ โปรแกรมต่างๆเป็นความรู้ทางเน็ตที่ไม่ฟรี เป็น e-book ลิขสิทธิ์ ที่หาไม่ได้ทางเน็ต อยากได้ต้องซื้อ ถามว่าเป็นสินค้าที่หน้าสนใจไหม ลองเข้าดูเว็บ แล้วลองพิจารณาดู จะเห็นความน่าสนใจต่างๆ ที่เจ้าของสินค้ายกมาอธิบาย และถ้าเราช่วยเว็บเหล่านี้โปรโมท เค้าก็จะมีส่วนแบ่งกำไรให้จากลิ้งค์คือ รหัสโปรโมทของเรา

ระบบนี้บางครั้งเราก็อาจจะต้องเป็นลูกค้าเขาก่อน จึงจะมีสิทธิ์สมัครเป็นตัวแทนโปรโมทได้ เราสมัครแล้วได้ลิ้งค์ของเรา เพื่อไปโปรโมทให้คนสนใจ ถ้ามีใครสนใจมาเป็นลูกค้าจากลิ้งค์ของเรา เราก็จะได้ส่วนแบ่งกำไรหรือค่าตอบแทนในการช่วยหาลูกค้าให้กับบริษัทได้ด้วย ซึ่งอันนี้เป็นรายได้ที่ต่อเนื่องยาวนาน ตราบเท่าที่ลูกค้าคนนั้นยังมีรายได้ในระบบอยู่ เขาก็ถือว่าเป็นลูกค้าประจำของบริษัท เราซึ่งร่วมหาลูกค้าด้วยก็ได้รับค่าคอมมิชชั่นต่อไปจนกว่าลูกค้าคนนั้นจะเลิกจ่ายเงินค่าบริการ

และนี่คือสินค้ารูปแบบหนึ่งทางอินเตอร์เน็ต ที่เราสามารถทำเงินได้ เราไม่จำเป็นต้องคิดสินค้า ไม่จำเป็นต้องคอยส่งสินค้า แค่โปรโมทด้วยรหัสของเรา เราก็สามารถทำเงินได้แล้ว เขาก็จะมีระบบให้เราเช็คยอดได้ สั่งจ่ายได้ และนั่นเป็นเพียงแค่บางส่วนจากระบบหนึ่งทางเน็ตเท่านั้น เราจะทำสักกี่ร้อยตัวก็ได้ ในการช่วยโปรโมท นี่คือที่มาที่ทำให้คนทำงานทางเน็ตบางคนมีรายได้วันนึงหลายหมื่น หลายแสนบาท

ยังมีอีกมากมายค่ะ ลองคิดดูว่าธุรกิจในโลกนี้มีอะไรบ้าง และอินเตอร์เน็ตคือสื่อในการเพิ่มพลัง กำไรของธุรกิจเหล่านั้น มีอีกหลายรูปแบบการจะทำเงินทางเน็ต แต่ต้องดูด้วยว่า รายได้ของระบบนั้นได้อย่างไร รูปแบบของงานการได้เงินและการแบ่งจ่ายเป็นอย่างไร สมเหตุและผลหรือไม่ที่จะจ่าย

อินเตอร์เน็ตงานดีที่สุดในโลก บทความนี้เพียงอยากให้หลายๆ คนมาจริงจังกับงานนี้กันมากๆ ในยุคที่น้ำมันแพง การจะทำงานที่ไหนต้องเอาค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายจิปาทะไปหัก เพื่อหาจุดคุ้มของรายได้ โดยไม่คำนึงถึงความสมบูรณ์ของครอบครัว เพราะต่างคำนึงถึงเงินเป็นเรื่องใหญ่

ในยุคที่คนจบปริญญาแห่กันแย่งไปเป็นลูกจ้าง หรือความรู้ปริญญาสอนมาอย่างนั้น?ในยุคที่ต่างดิ้นรน หาเงินกัน ครอบครัวไม่อบอุ่น คนแก่อยู่เหงาๆ ได้แต่แอบภูมิใจ ว่าลูกมีการงานทำในยุคที่แดดร้อนเหลือเกิน ธรรมชาติขาดสมดุล เดี๋ยวฝนถล่มมา เดี๋ยวแดดเผาไม่หยุดงานเน็ตไม่ใช่เรื่องยาก และทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ หลายอย่างไม่มีสอนในโลกเรียนหรือแม้กระทั่งในมหาวิทยาลัย วิชา Internet Marketing ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการทำเงินทางเน็ตเท่านั้น

หวังอย่างยิ่งว่า บทความนี้จะทำให้เข้าใจระบบงานทางเน็ต และเป็นหนทางในการเลือกทางเดินชีวิตที่สมบูรณ์ที่สุดได้

วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2551

จากใจสมาชิกคนไทยในอเมริกา

website นี้เป็นเว็บไซต์ส่วนตัวอิสระของสมาชิก Empowerism คนหนึ่ง ในอเมริกาไม่เกี่ยวกับ Empowerism.com เพราะใครๆ ก็เป็นสมาชิกของบริษัทนี้ได้ทั่วโลก หากสนใจ ปัจจุบันนี้Empwerism มีสมาชิกทั้วโลกมากกว่า 2 แสนคนแล้ว และมีสมาชิก active อยู่ไม่น้อยกว่า 80 %
Empowerism เป็นโปรแกรมลูกของบริษัท Life, Education and Prosperity, Inc. ในมลรัฐ Georgia ในอเมริกาบริษัทนี้มีอายุประมาณ 10 ปีแล้ว แต่โปรแกรมลูก Empowerism ออนไลน์มาแล้วประมาณ 7- 8 ปี

หลายคนคงมีคำถามมากมายถึงสาเหตุที่ Empowerism เติบโตได้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้โด่งดังเหมือนธุรกิจตัวอื่น และ 7-8 ปีสมาชิกก็ยังไม่มากมายเท่ากับธุรกิจอื่นๆ และ

ทำไม Empowerism จึงเป็นที่นิยมมากหนักหนาและยืนยงมาสู่ปีที่ 10

ทำไม Empowerism จึงมี active member ไม่น้อยกว่า 80 % และมีสมาชิกอยู่เกือบทุกประเทศทั่วโลก

และทำไมชุมชนบน internet ถ้าไป serch ดูจะรู้ว่า ไม่มีใครเลยที่จะมากล่าวหาว่า Empowerism ไม่ดีหรือคดโกงสมาชิก จะมีเพียงแค่บางส่วนที่มักจะบ่นเรื่องความยุ่งยากในการ sign up เหตุผลก็เพราะบริษัทเขาต้องการความรอบคอบจึงต้องตรวจสอบ เพื่อที่จะรักษาองค์รวมทั้งหมดให้มั่นคงปลอดภัยจากผู้ไม่หวังดี หรือพวกคนโกงบน internet ซึ่งมีอยู่มาก

ผมได้พยายามทำ research บน internet และเห็นว่าที่ empowerism เป็นโปรแกรมที่แข็งแรงอยู่บนโลกออนไลน์นี้ได้มา 7 - 8 ปี ซึ่งถ้าท่านศึกษาอย่างละเอียดจะพบว่า สิ่งต่อไปนี้ที่ทำให้โปรแกรมนี้อยู่มาได้ แต่ไม่โด่งดังมาก คือ:

1. สินค้าของบริษัท เราอาจจะพูดได้ว่าสินค้าของ Empowerism จริงแล้วก็คือ ห้องสมุดออนไลน์นั่นเอง ท่านเข้าไปที่ Training Center ในห้องสมุดออนไลน์ตรงนี้ สมาชิกสามารถเลือกหาอ่านศึกษาหาความรู้ได้ทั้งหมด เกี่ยวกับความรู้ด้าน internet, การทำการค้าบน internet, เรื่อง ecommerce ทั้งหมดมากมาย มีบทการเรียนรู้หมวดหมู่ต่างๆ เป็นชุดๆ เป็นหัวข้อๆ

และที่ผมชอบมาก คือ วารสารรายเดือนออนไลน์ ชื่อ Excellent Magazine ออกเดือนละฉบับ ในรูป PDF file ผมชอบมาก เนื้อหามีคุณค่าสูงเขียนโดย ผู้รู้ หรือ guru ด้านธุรกิจออนไลน์ การทำการตลาด แนวคิด กลยุทธ์ know how ด้านการตลาดออนไลน์ ข้อแนะนำต่างๆ ในการทำธุรกิจ

ยิ่งไปกว่านั้น ในแต่ละเดือน Empowerism ยังให้ Leads (รายชื่อผู้มุ่งหวัง) แก่สมาชิกด้วย เดือนละ 50 รายชื่อ ให้ท่าน login เข้าไปที่เมนู Leads Download [Leads คืออะไร คำว่า leads ในทางการค้า ก็คือ ผู้มุ่งหวังทางการค้า ผู้ที่มีความสนใจ มีศักยภาพในการซื้อสินค้า หรือ ผู้ที่กำลังแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ แบบเราๆ ท่านๆ Leads ที่บริษัทแถมให้ในแต่ละเดือน มี 50 รายชื่อ ประกอบด้วย ชื่อ นามสกุล ที่อยู่บ้านเลขที่ เบอร์โทร email ที่ติดต่อ ท่านจะเห็นว่า Leads นี้มีประโยชน์มาก ที่ท่านสามารถนำไปต่อยอดธุรกิจอื่นๆ ของท่าน ในการนำเสนอสินค้า หรือ นำเสนอโปรแกรมธุรกิจอื่นๆ ของท่าน]

2. การทำตลาดของ Empowerism ใครสนใจในสินค้าของบริษัท หากอยากมาใช้มาอ่าน ก็ต้องเป็นสมาชิกก่อนง่ายๆ คือต้องเป็นสมาชิกห้องสมุดออนไลท์นี้ก่อน เสียค่าสมาชิกแรกเข้า 24.95 usd. หากเมื่อเป็นสมาชิกแล้ว ในเดือนต่อๆ ไป หากอยากเป็นสมาชิกอ่านต่อก็ต้องเสียค่าสมาชิกรายเดือน เดือนละ 19.95 usd. แค่นี้เองง่ายๆ

3. บริษัทมี compensation Plan (แผนการสร้างรายได้) เข้ามาด้วย เพื่อให้สมาชิกมีรายได้อย่างต่อเนื่อง บางคนสามารถยึดเป็นอาชีพได้ เหมือนเป็นนายหน้าขายสมาชิกให้บริษัทฯ

4. เมื่อผมตรวจทาน ณ เวลานี้ จนถึงตรงนี้ ผมเลยเห็นว่า Empowerism เป็นธุรกิจที่ใสสะอาด เอื้ออาทร โปร่งใส ไม่เอาเปรียบให้ความรู้ ให้สิ่งที่ดีมีคุณค่าแก่สมองและชีวิตให้โอกาสคนทั่วโลก

ถึงตรงนี้ ผมอยากจะบอกทุกท่านว่า หากท่านคิดว่าดี และปลอดภัยก็ลองเป็นสมาชิกครับ และหารายได้จากโปรแกรมนี้ หากคิดว่าไม่ดี เสี่ยงก็ไม่ต้องทำครับ ทุกคนเป็นสมาชิกอิสระ เหมือนกันหมดทั่วโลก เจ้าของไม่ไช่เรา เราทุกคนแค่สมาชิก เจ้าของคือ Life, Education and Prosperity, Inc. ซึ่งมีที่ทำการอยู่ที่ มลรัฐ Georgia ครับ

โลกไร้พรหมแดนแล้ว คนเราต้องรักกัน เผื่อแผ่กัน ห้ามหลอกลวงกัน ห้ามให้ข้อมูลเท็จกันทำอะไรที่เบาๆ สบายๆ เท่านั้น ทำในสิ่งที่ประเทืองปัญญาเท่านั้น ไม่พูดหยาบให้แก่กัน ต้องเมตตาเผื่อแผ่สิ่งดีงามต่อกันเท่านั้น

ผมเห็น Empowerism โปร่งใสสะอาด ถูกกฎหมายสินค้าดีมาก ไม่คลุมเครือ ไม่ลึกลับผมเลยสมัครเป็นสมาชิกไว้อ่านหาความรู้ หากท่านสนใจก็เชิญพิจารณาดูครับแค่ 24.95 usd เท่านั้นหากสนใจและดูแล้วปลอดภัยและดีงาม ก็ทำครับท่านตัดสินใจเอง ไม่มีใครมาบังคับท่านได้ เจ้าของคือ Life, Education and Properity, Inc.

ครับ...เป็นสมาชิกแบบเบาสบาย แค่ 24.95 usd (ประมาณราว ๆ 889.- บาท ) เท่านั้น ไม่ต้องให้สมาชิก คิดผิด ละโมบ ด่วนตัดสินใจไปกู้หนี้ยืมสิน ต้องบาดเจ็บแสนสาหัส ต้องลงกันเป็นหมื่นๆๆๆ แสนๆๆๆ ล้านๆๆๆ ระบบของเขาดีนะ โปร่งใสมากๆ หากเราสนใจแล้วสมัคร เป็นสมาชิกก็แค่นั้น 24.95 usd. ดังนั้น เราน่าจะสบายใจและปลอดภัย หากบริษัทนี้เขาล้มปิดไป เราๆ ท่านๆ สมาชิกก็คงไม่ถึงขนาดล้มละลายได้หรอกครับ เพราะเงินน้อยนิดเดียว เราไม่เจ็บตัวมาก

บริษัทนี้มีอายุ 10 ปี โดยประมาณออนไลน์ มา 7-8 ปี มีสมาชิกมากกว่า 2 แสนคนในเกือบทุกประเทศทั่วโลก เป็นที่ชื่นชมทั่วโลกออนไลน์ สินค้าก็ดีเหลือเกินครับ ทำให้เราฉลาดพัฒนาศักยภาพตัวเรา แต่มีบางคน บอกว่าบริษัทนี้ไม่ดี หลอกลวง ช่วยๆ กันหาข้อมูลทั้งโลกทีครับ หากไม่ดีเราทุกคนจะได้เลิก เป็นสมาชิก ผมนั่งหาความไม่ดี ความหลอกลวง ของบริษัทนี้มาทั้งเดือน ใช้ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษา Deusche ภาษา Norsch แต่ยังหาความไม่ดี ความหลอกลวง จากมันไม่ได้เลย ยิ่งหาก็พบแต่สิ่งดี ดังนั้นช่วยกันหาทีครับ หากไม่ดี พวกเราจะได้เลิกเป็นสมาชิก และประกาศให้คนทั่วโลกได้รู้ เชิญครับ ใครที่คิดว่ามันไม่ดี

วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2551

Empowerism มีดีอะไร...คนทั่วโลกถึงต้องทำ

สวัสดีค่ะสมาชิกใหม่และเก่าทุกท่าน ที่ได้เข้าเยี่ยมชมบล็อก empowerthai นับถึงวันนี้เราได้เริ่มต้นบุกเบิกงานเอ็มพาวเวอร์ริชมาได้กันเกือบหนึ่งเดือนแล้ว ทีมงานเราถือว่า ประสบความสำเร็จในระดับเรื่อยๆ แต่มั่นคง เนื่องด้วยการคัดเลือกคนเข้าสู่องค์กรค่อนข้างใช้ความเข้าใจพอสมควร ซึ่งทางทีมงานทุกคนไม่อยากให้เกิดความล้มเหลวในองค์กรเหมือนกับการทำงานออนไลท์ที่ผ่านๆ มา โดยเรามักจะไม่เลือกคน แต่เรานำคนเข้าสู่องค์กรด้วย "ความร้อนร้น" เป็นหลัก ไม่ใช่เพราะเราสร้างความเข้าใจให้กับผู้ร่วมธุรกิจเสียก่อน อีกอย่างแม้แต่ตัวคนทำธุรกิจเองที่ไปชวนคนอื่นก็ยังไม่เข้าใจธุรกิจอย่างแท้จริง เราก็เลยมาทบทวนกันสักหน่อยว่า เราทำธุรกิจ empowerism ทำไม ทำแล้วได้อะไร และธุรกิจนี้แตกต่างจากธุรกิจอื่นอย่างไร จะได้มีความรักในธุรกิจนี้เพิ่มมากขึ้น และสามารถนำไปถ่ายทอดให้แก่ผู้อื่นได้ ทำให้เราสามารถนำคนเข้าสู่องค์กรนี้ด้วยความเข้าใจมากขึ้น

เหตุผลที่เราทำธุรกิจ empowerism
1. ต้องการอิสรภาพในการทำงาน เพราะเอ็มพาวเวอร์ริซึ่มไม่จำกัดเวลาทำงาน ไม่ต้องตอกบัตร ไม่ต้องลงเวลา ทำงานที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องมีออฟฟิส ไม่ต้องทำงานทุกวัน

2. ต้องการหยุดทำงาน รายได้ไม่หยุด ธุรกิจเอ็มพาวเวอร์ริซึ่ม สามารถสร้างรายได้มากกว่า 500,000 บาทต่อเดือน ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี และตลอดไป โดยไม่ต้องทำงานอีก เรียกได้ว่า "เสือนอนกิน" จริงๆ

ลองคิดดู คุณต้องทำงานสักกี่ปี ที่จะทำให้คุณมีรายได้เดือนละ 500,000 บาทหรือต้องทำงานหนักแค่ไหนที่จะได้ผลตอบแทนเดือนละ 500,000 บาท

หลายคนอาจจะมีรายได้เดือนละ 500,000 บาทได้ แต่ลองถามตัวเองดูว่า ถ้าคุณหยุดทำงานเมื่อไหร่ รายได้คุณยังได้รับหรือไม่ ถ้าไม่ empowerism ให้คุณหยุดทำงาน รายได้ไม่หยุดได้ ด้วยแผนการตลาดแบบเครือข่ายอัจฉริยะที่มุ่งให้ทุกคนมีรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนจริงๆ ในเวลาไม่เกิน 1 ปี

3. ต้องการเป็นเจ้าของกิจการหรือเจ้าของระบบเอง ธุรกิจเอ็มพาวเวอร์ริซึ่มให้คุณเป็นเจ้าของกิจการหรือเจ้าของระบบนี้ได้ด้วยเงินทุนเพียง 25$ เท่านั้น ไม่ต้องไปคิดสร้างระบบเองให้เสียเวลา ไม่ต้องเช่าออฟฟิส ไม่ต้องมีลูกน้อง ไม่ต้องทดลอง ไม่ต้องไปเผชิญปัญหาต่างๆ มากมาย ไม่ต้องวุ่นวายกับระบบการจัดการทั้งหลาย

ถ้าคุณจะทำธุรกิจส่วนตัว คุณต้องใช้เงินทุนเท่าไหร่ มีคู่แข่งมากเท่าไหร่ และที่สำคัญต้องทำงานหนักมากเท่าไหร่ในการบริหารทุกเรื่องที่อยู่ในธุรกิจของคุณ (แค่คิดยังเหนื่อยเลยค่ะ...เฮ้อ!!)

4. ลงทุนต่ำ - กำไรจากการทำธุรกิจไม่น้อยกว่า 80% ถ้าใครเคยทำธุรกิจอื่นๆ มาจะรู้ว่า น้อยธุรกิจมากที่ลงทุนน้อย กำไรสูง เพราะส่วนใหญ่กว่าจะคืนทุนต้องใช้เวลานาน หลังจากนั้นพอเริ่มจะมีกำไร ก็ต้องพัฒนาและลงทุนเพิ่มอีก เพราะต้องแข่งกับคู่แข่งให้ได้

แต่เอ็มพาวเวอร์ริซึ่ม ยิ่งนานวันที่คุณทำธุรกิจการลงทุนของคุณกับกำไรมันจะเพิ่มขึ้นเป็นอีกหลายเท่าตัว
เงินจะไหลเข้าอย่างไม่ขาดสาย และไม่สิ้นสุด

5. ขยายตลาดต่างประเทศได้โดยไม่ต้องดำเนินการเอง อันนี้สุดยอด!!! เพราะรายได้ที่ไม่สิ้นสุดจะต้องเกิดจากตลาดที่ใหญ่มาก บางธุรกิจทำได้แค่บางพื้นที่ หรือแค่บางประเทศ ทำให้ขาดความเป็นไปได้ของแผนการสร้างรายได้ แต่เอ็มพาวเวอร์ริซึ่มสามารถทำตลาดได้ทั่วโลกกับคน 6,000 ล้านคน

สังเกตุได้ง่ายๆ สำหรับแผนการตลาดแบบเครือข่าย ถ้าทำได้เฉพาะพื้นที่ แผนการสร้างรายได้จะต้องถูกแบ่งไปตามสัดส่วนของคนที่มีอยู่ในพื้นที่นั้นๆ ความเป็นไปได้ของแผนก็จะลดลงไปเรื่อยๆ

6. เอ็มพาวเวอร์ริซึ่มมีความมั่นคงและผ่านร้อนผ่านหนาวมากกว่า 10 ปีแล้ว ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่า คุณกำลังทำงานกับบริษัทที่เป็นมืออาชีพ ไม่ใช่ยังไม่มีประสบการณ์ หรือความสำเร็จให้เห็นเหมือนบางบริษัทที่เพิ่งเปิด ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่ หรือบางบริษัทก็เปิดนานเสียจนตลาดเริ่มเต็มแล้ว

นี่คือเหตุผลในการตัดสินใจทำธุรกิจร่วมกับ Empowerism ที่ทุกคนต้องรู้ จึงจะทำให้เรารักธุรกิจนี้อย่างแท้จริง และมุ่งมั่นที่จะทำมันอย่างตั้งใจ

ธุรกิจเอ็มพาวเวอร์ริซึ่มแตกต่างจากที่อื่นอย่างไร
1. บริษัทเปิดมาแล้ว 10 ปีที่อเมริกา แต่ยังใหม่สำหรับเมืองไทย โอกาสเติบโตในอนาคตดีมาก เป็นเทรนใหม่สำหรับนักธุรกิจเครือข่าย
2. ลงทุนต่ำเพียง 25$ คืนทุนเร็วด้วยการแนะนำลูกค้าเพียง 2 ราย (เหลือกำไรแล้ว)
3. รักษายอดต่ำเพียง 20$ ถ้าเดือนแรกแนะนำลูกค้า 3 ราย เดือนต่อมาก็ไม่ต้องจ่ายแล้ว และมีรายได้ต่อเนื่องทุกเดือน โดยไม่ต้องมาทำงานใหม่ทุกๆ เดือน ทำให้เกิดรายได้มั่นคงได้จริงๆ
4. สินค้าไม่มีคู่แข่ง ถ้าเปรียบเทียบกับธุรกิจประเภทเครือข่าย แต่เป็นมิตรกับธุรกิจเครือข่ายแบบ worldwide
5. แผนรายได้ง่ายต่อการทำความเข้าใจกับผู้มุ่งหวัง เพราะบางแผนกว่าจะรู้แผนหมดต้องเสียเวลาไปหลายเดือน หรือเสียเงินมากกว่าจะรู้ว่าแผนมีอะไรซ่อนไว้บ้าง
6. ธุรกิจเอ็มพาวเวอร์ริซึ่ม ยากต่อการลอกเลียนแบบ เพราะบริษัทพร้อมพัฒนาแข่งกับคู่แข่งได้ทันที เนื่องจากบริษัทมีเงินทุนมากพอสำหรับการแข่งขัน
7. เมื่อมีรายได้จากเครือข่ายแล้ว บริษัทเปิดโอกาสให้เราสามารถใช้เงินทำงาน มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ โดยไม่ต้องชวนคน ด้วยโปรแกรมพิเศษที่บริษัทคิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะให้กับสมาชิกเท่านั้น จะเห็นว่า นอกจากแผนเครือข่ายจะมั่นคงและต่อเนื่องแล้ว เมื่อเงินทำงานแทนแล้ว เครือข่ายอาจจะไม่มั่นคง แต่แผนรองจะทำให้คุณมีรายได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตได้จริงๆ

เพราะนักธุรกิจเครือข่ายส่วนใหญ่รู้ดีว่า ยิ่งองค์กรมากเท่าไหร่ เรายิ่งต้องรักษาองค์กรให้อยู่กับเรามากเท่านั้น แต่เอ็มพาวเวอร์ริซึ่ม สร้างความมั่นคงได้หลากหลายทาง ไม่สิ้นสุด

นักธุรกิจทุกท่านคะนี่คือ ธุรกิจที่จะทำให้คุณพลิกฟื้นชีวิตได้จริงๆ ไม่อยากให้คุณหนีจากมันไปจนกว่าคุณจะทำมันอย่างเต็มที่ให้เกิดผลโดยเร็วที่สุด เพื่อที่คุณจะได้นำไปบอกต่อคนอื่นที่กำลังเดือนร้อนกับพิษเศรษฐกิจอยู่ตอนนี้